เลือก Rolex ครั้งแรก… แต่ละซีรีย์มีจุดประสงค์อะไร และจะเลือกอย่างไรดี? | จิวเวล คาเฟ่ ไทยแลนด์

ในการเลือกนาฬิกาหรูเป็นครั้งแรก หลายๆ คนมักจะเลือกที่จะซื้อนาฬิกา Rolex ก่อน โดยส่วนตัวแล้ว เราก็คิดว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง โดย Rolex นั้นมีมูลค่าทรัพย์สินสูง และยังเป็นสัญลักษณ์ของนาฬิกาสุดหรู ดังนั้นการเลือกแบรนด์หลักๆ เช่นนี้จึงเป็นกลยุทธ์ที่ดี และเราก็คิดว่าคุณควรพัฒนาความชอบและความรู้เมื่อใช้งาน อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณไปที่ร้านนาฬิกาเพื่อเลือกนาฬิกาหรูเป็นครั้งแรก ก็จะพบกับหมายเลขรุ่นมากมายของ Rolex และหลายคนมักพูดว่า 「ฉันไม่รู้ว่าอะไรเหมาะกับฉัน」 หรือ 「ฉันไม่รู้ว่าจะใช้มาตรฐานอะไรในการเลือกดี」อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น ในครั้งนี้เราจะมานำเสนอวิธีการเลือกนาฬิกา Rolex ในครั้งแรกแบบละเอียดเป็นขั้นเป็นตอนกันนะคะ

ขั้นแรก ให้เลือกว่าจะเอารุ่นแบบไหนดี

ว่ากันว่ามีรูปแบบของรุ่นอยู่หลักๆ ประมาณ 3 รุ่น และเนื่องจากว่าใน 3 รุ่นนั้นก็ยังมีรูปแบบย่อยๆลงไปอีก ดังนั้นหากเป็นไปได้ ให้คุณสร้างภาพความคิดขึ้นมาว่า 「รุ่นแบบนี้ ดีจัง..」ก่อนที่จะไปที่ร้านนาฬิกาค่ะ

1. Sport Model

Explorer I (ลักษณะพิเศษ คือมีภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย สแตนเลส ภาพลักษณ์สื่อถึงการปีนเขา)
Explorer II (ภาพลักษณ์สื่อการสำรวจถ้ำ เข็มบอกเวลา 24 ชั่วโมง)
Submariner (นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำ ประสิทธิภาพกันน้ำสูง)
ทั้ง 3 นี้เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบหลัก (เป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของรูปแบบรุ่นเท่านั้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องสนใจกีฬาชนิดนั้น ภาพลักษณ์ที่สื่อออกมาได้แก่ การดำน้ำ การแข่งเรือยอร์ช การบิน การผจญภัย ฯลฯ)

นอกจากนี้ยังมีระดับไฮเอนด์ที่มีราคาสูงกว่าในแต่ละรุ่นอีกด้วย ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณ คุณน่าจะอยากพิจารณารุ่นต่างๆเหล่านั้น เช่น 「Deepsea」 ซึ่งเป็นมากกว่าเรือดำน้ำ รุ่นรถแข่ง 「Daytona」 และ「 Yachtmaster 」ซึ่งมักจะใช้ทองคำหรือแพลทินัมเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือน นอกจากนี้ ในบรรดารุ่นสปอร์ต ยังมีรุ่นไฮเอนด์ที่ใช้วัสดุสีทองหรือแพลทินัมนอกเหนือจากสแตนเลส หรือประดับด้วยเครื่องประดับ ซึ่งก็มีมูลค่าสูงด้วยเช่นกันในฐานะ Dress Model

2. Standard Model

รุ่นมาตรฐานทั่วไป ดูเรียบง่ายคือ Oyster Perpetual (หรือที่รู้จักในชื่อ Date หรือ Datejust) การออกแบบถือเป็นมาตรฐานสำหรับ Rolex และวัสดุเป็นสแตนเลส ดังนั้นราคาจึงมักสมเหตุสมผล โดยทั่วไปแล้ว Oyster Perpetual หมายถึงรุ่นที่ไม่มีวันที่ และหากมีวันที่ จะเรียกว่า Date (ขนาดเล็กพร้อมวันที่, Datejust (ขนาดปกติพร้อมวันที่), Datejust II (ขนาดใหญ่พร้อมวันที่) กล่าวกันว่ารุ่นที่ไม่มีวันที่นั้นเหมาะกับผู้ชายและผู้เริ่มต้นสนใจในแบรนด์นี้

3. Dress Model

Dress Model ไม่เพียงแต่ทำจากสแตนเลสเท่านั้น แต่ยังเป็นรุ่นที่ผสมผสานระหว่าง 「สแตนเลส + ทอง」 และเพชร ทำให้นาฬิกามีรูปลักษณ์ที่หรูดูแพง ตัวอย่างทั่วไปคือ Datejust (อ้างอิงข้อ 2 ด้านบน) ซึ่งใช้วัสดุอื่นที่นอกเหนือจากสแตนเลส นอกจากนี้ Dress Model อาจมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การแสดงวันที่พร้อมกับวันในรอบสัปดาห์อีกด้วย ราคาจะสูงกว่ารุ่นมาตรฐาน

ตัดสินใจเลือกขนาดของกรอบ

โดยทั่วไป รุ่นสำหรับผู้ชายเส้นผ่านศูนย์กลางจะอยู่ที่ 34 ถึง 44 มม. ส่วนผู้หญิงจะมีขนาด 26 ถึง 28 มม. มีขนาดและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่น ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะเป็นการจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงได้ เพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกรุ่นใด

ตัดสินใจโดยคำนึงถึงงบประมาณและมูลค่าทรัพย์สิน

โปรดจำไว้ว่า ถ้าเป็นรุ่นสำหรับผู้ชาย งบประมาณของคุณควรอยู่ที่ประมาณ 200,000 – 300,000 บาทสำหรับ Rolex รุ่นใหม่ (เช่น Explorer I หรือ Submariner) และประมาณ 100,000 บาทสำหรับรุ่นมือสอง ขึ้นอยู่กับว่าสภาพเก่าหรือใหม่ (รุ่นปัจจุบันมักจะมีราคาแพงกว่า) (โดยพื้นฐานแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะซื้อรุ่นยอดนิยมใหม่จากร้านค้าที่ได้รับอนุญาตในประเทศ และในกรณีนี้ ราคาตามร้านค้าที่นำเข้าจะเป็นราคามาตรฐาน)

สำหรับนาฬิกาผู้หญิง นาฬิการุ่นใหม่อย่าง Datejust เริ่มต้นที่ประมาณ 200,000 บาท และนาฬิกามือสองเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาท ในกรณีของมือสอง ราคาจะต่างกันไปตามสภาพของทั้งชายและหญิง แต่ถ้ามั่นใจและตั้งใจที่จะใช้นานๆ จำเป็นที่จะต้องมีงบประมาณไว้ด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าหลายๆ คนจะใช้มูลค่าทรัพย์สิน (ราคาจะลดลงเท่าใด และสามารถรักษาราคาไว้ได้หรือไม่ แม้ว่านาฬิกาจะไม่จำเป็นอีกต่อไปและจะถูกขายไปก็ตาม) เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือก Rolex ประเด็นก็คือ,
〇 สินค้ามือสองมีแนวโน้มที่จะขาย มีมูลค่ามากกว่าสินค้าใหม่ หากสภาพไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก (เพราะราคาถูกกว่าตั้งแต่แรก)
〇 ในบรรดารุ่นต่างๆ รุ่นสปอร์ตนั้นดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้ม ว่าเป็นที่ต้องการค่อนข้างมากและราคาจะตกน้อยกว่า
นี่เป็นเพียงแนวทาง ดังนั้นหากคุณตรวจสอบราคาขายแต่ละรุ่นล่วงหน้า เช่น บนเว็บไซต์ประมูล คุณอาจจะเข้าใจมูลค่าของสินทรัพย์ได้ หากคุณไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป

นอกจากนี้ นาฬิการุ่นเดียวกันก็อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุ
「สแตนเลสล้วน」
「สแตนเลสและทองคำขาว」
「สแตนเลสและทองคำเหลือง (ชมพู)」
ราคาจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ประมาณ 25,000 ถึงประมาณ 62,500 บาทต่อเรือน ดังนั้นเราจึงคิดว่า สิ่งนี้จะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจของคุณด้วยค่ะ และยังขึ้นอยู่กับจำนวนเพชรด้วยว่ามีเพชรอยู่บนหน้าปัดมากน้อยหรือไม่

มีปัจจัยการอัพเกรดอื่นๆ หลายประการที่คุณอาจต้องคำนึงถึง เช่น วัสดุของหน้าปัด (โลหะหรือเปลือก) มีหรือไม่มีวันที่ การใช้เพชรบนกรอบ และรูปทรงของสายนาฬิกา .

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ?
「การเลือกรุ่น」 「การเลือกขนาดกรอบ」「การเลือกตามราคาและมูลค่าทรัพย์สิน」
แต่ละคนมีเกณฑ์ในการตัดสินใจที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงคิดว่า ควรจะขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกอันไหนก่อน การเลือกส่วนที่คุณต้องการโฟกัสก่อน จะมีประสิทธิภาพมากกว่า บทความข้างต้นคือตอนเลือกสินค้าใหม่ แต่เมื่อเลือกของมือสอง เรามองว่า ควรที่จะตัดสินจากมูลค่าในการซื้อ โดยพิจารณาจากสภาพสินค้าและและอุปกรณ์เสริมว่ามีหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดประกอบการตัดสินใจโดยละเอียดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในคราวนี้ ทางเราแค่อยากจะแนะนำประเด็นทั่วไปสำหรับการตัดสินค่ะ

ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ