กระเป๋า Hermes มีหลากหลายรุ่น มีคุณภาพขั้นสูงและยังคงครองใจผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ใน
บทความนี้เราจะมาแนะนำกระเป๋า Hermes รุ่นหลักๆ กันค่ะ! พร้อมอธิบายคุณสมบัติพร้อมราคา รุ่นคลาสสิกอย่าง Birkin หรือรุ่นยอดนิยม Bolide รวมถึงรุ่นทั่วๆไป และรุ่นใหม่ๆ
เสน่ห์ของกระเป๋า Hermes คืออะไร?
Hermes แบรนด์สุดหรูจากฝรั่งเศส เปล่งประกายเจิดจ้าไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทุกยุคทุกสมัย และยังคงดึงดูดใจผู้คนมากมายอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง กระเป๋าแต่ละใบได้รับการรังสรรค์อย่างประณีตโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ เพื่อผลิตกระเป๋าคุณภาพสูงโดยใช้หนังคุณภาพสูงสุดอีกด้วย
Hermes ก่อตั้งขึ้นในปี 1837 แต่เดิมเป็นร้านขายเครื่องเทียมม้าระดับไฮเอนด์ แต่เมื่อรถยนต์ได้รับความนิยมขึ้นมาแทนที่ จึงเริ่มหันมาผลิตเครื่องหนังแทน เช่น กระเป๋าและกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใบแรกที่ผลิตขึ้นคือ Haut a Courroies เพื่อใช้บรรทุกอานม้า การออกแบบนี้ก็ได้พัฒนามาจนกลายเป็นรุ่น Birkin และ Kelly
เสน่ห์ของ Hermès คือให้ความรู้สึกถึงคุณค่าอย่างแท้จริง และยังคงได้รับความนิยมในปี 2023 และจำนวนคนหนุ่มสาวในจีนและสหรัฐอเมริกาที่ชื่นชอบก็เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังๆ ในปี 2022 เรามียอดขายเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เราจะแนะนำกระเป๋า Hermes ที่ยังคงเป็นที่หลงใหลไปทั่วโลก ตั้งแต่รุ่นคลาสสิก ยอดนิยมไปจนถึงรุ่นที่เลิกผลิตแล้วและรุ่นใหม่ๆ
ประเภทกระเป๋า Hermes [3 รุ่นคลาสสิค]
กระเป๋าHermès ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 3 รุ่น ได้แก่ Birkin, Kelly และ Halzan เราจะมาอธิบายคุณสมบัติและราคาของแต่ละรุ่นกันค่ะ
Birkin
Birkin คือ หนึ่งในกระเป๋าซิกเนเจอร์ของ Hermes ดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล ใช้งานได้จริงและสามารถเก็บสัมภาระได้มากมาย ในขณะเดียวกันก็ดูหรูหราและสวยงามอีกด้วย
ชื่อ Birkin มีที่มาจาก Jane Birkin หญิงสาวชาวอังกฤษผู้มีความสามารถหลากหลาย ถูกนำมาใช้เป็นชื่อโดยบังเอิญ เมื่อประธานของHermès ในขณะนั้นได้นั่งข้าง Jane Birkin ขณะนั่งโดยสารเครื่องบิน และเธอพูดว่าอยากได้กระเป๋าที่สามารถใส่ขวดนมได้
ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและวัสดุ โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านถึง 8 ล้านเยน และราคาตลาดมือสองอยู่ที่ประมาณ 500,000 ถึง 10 ล้านเยน (ประมาณ 125,000 – 2,500,000 บาท)
Kelly
กระเป๋า Kelly ได้รับความนิยมมากจนนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งของชิ้นเล็กๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่แข็งแรง และความสวยงามของที่จับและฝาครอบ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของความสง่างามที่ดูประณีต
เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในปี 1936 พร้อมกับชื่อว่า 「Sac-a-Croix」 แต่เปลี่ยนชื่อเป็น 「Kelly」 ในภายหลัง เนื่องจากเพื่อเป็นเกียรติแก่ Grace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโกในขณะนั้น ซึ่งโปรดปรานกระเป๋ารุ่นนี้
ราคาจะอยู่ที่ 1 ล้านถึง 8 ล้านเยน (ประมาณ 250,000 – 2,000,000 บาท) ส่วนราคาตลาดมือสองนั้น จะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของราคานั้น
Halzan
Halzan ยังเป็นกระเป๋าที่ใหม่อยู่เมื่อเทียบกับ Birkin และ Kelly แต่นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 ก็กลายเป็นกระเป๋าคลาสสิคที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว มีการออกแบบที่โดดเด่นคล้ายกับโกลนของบังเหียนม้า เสน่ห์อันยอดเยี่ยมคือการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายไหล่ หรือกระเป๋าคลัทช์ได้อีกด้วย
แม้ว่าดีไซน์จะดูหรูหรา แต่ก็ยังมีความจุที่มากพอสำหรับจัดเก็บเครื่องโน็ตบุ๊กอีกด้วย ทำให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ในทุกโอกาส
ราคาจะอยู่ที่ 650,000 ถึง 800,000 เยน (ประมาณ 162,500 – 200,000 บาท) ส่วนราคามือสองอยู่ที่ 500,000 ถึง 850,000 เยน (ประมาณ 125,000 – 212,500 บาท) เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้กระเป๋า Hermes เป็นประจำทุกวัน
ประเภทกระเป๋า Hermes [3 รุ่นยอดนิยม]
ในบรรดากระเป๋า Hermes หลายๆรุ่น มี 3 รุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่ “Bolide” “Evelyn” และ “Aline” เราจะมาอธิบายคุณสมบัติและราคาของกระเป๋าแต่ละใบกันนะคะ
Bolide
Bolide ผลิตขึ้นในปี 1923 โดยเป็นกระเป๋าที่มีซิปใบแรกๆ ของโลก สมัยนั้นกระเป๋าโดยปกติจะปิดด้วยตะขอหรือเข็มขัด ผู้ใช้จึงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะเปิดง่าย การเพิ่มซิปเข้ามาจึงกลายเป็นความแปลกใหม ที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังนิยมใช้เป็นกระเป๋าเดินทางด้วย เนื่องจากมีความจุ ฟังก์ชันการใช้งาน ที่ทนทาน
ราคาจะอยู่ที่ 700,000 ถึง 1.3 ล้านเยน (ประมาณ 175,000 – 325,000 บาท) ส่วนสินค้ามือสองจะอยู่ที่ 800,000 ถึง 1.15 ล้านเยน (ประมาณ 200,000 – 287,500 บาท) แม้ว่าจะเป็นรุ่นยอดนิยมแต่ราคาก็ยังไม่ขึ้นสูงขนาดนั้น จะได้ราคาดีมากน้อยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสภาพ
Evelyne
Evelyne เป็นกระเป๋าสะพาย Hermes ยอดนิยม การฉลุตัวอักษร “H” ซึ่งเป็นอักษรย่อของ Hermes ส่งเสริมให้มีความโดดเด่นมากขึ้น การฉลุนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นด้านการออกแบบเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้นอีกด้วย
เหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1978 ก็เพราะ มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และทนทาน มีหลายขนาดให้เลือก และยังมีขนาดที่ใหญ่เพียงพอที่คนตัวใหญ่สามารถใช้ได้
ราคาอยู่ที่ 250,000 ถึง 500,000 เยน (ประมาณ 62,500 – 125,000 บาท) และแม้แต่สินค้ามือสองก็อยู่ที่ประมาณ 300,000 ถึง 550,000 เยน (ประมาณ 75,000 – 137,500 บาท) เป็นกระเป๋าHermès ยอดนิยมในราคาที่ค่อนข้างแพงและหาซื้อได้ยาก
Aline
Aline เป็นกระเป๋า Hermes หายากที่มีรูปลักษณ์คล้ายหนังและทำจากวัสดุแคนวาส ส่วนที่เป็นหนังใช้กับด้ามจับเท่านั้น ทำให้มีดีไซน์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
เดิมที เป็นถูกผลิตเป็นสินค้า Limited Edition สำหรับลูกค้าพิเศษ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากได้รับความนิยมสูงมาก ปัจจุบันจึงกลายเป็นสินค้าที่หายากไปแล้ว
ราคาจะอยู่ที่ 150,000 ถึง 280,000 เยน (ประมาณ 37,500 – 70,000 บาท) และราคามือสองอยู่ที่ 70,000 ถึง 320,000 เยน(ประมาณ 17,500 – 80,000 บาท)
ประเภทกระเป๋า Hermes [รุ่นที่เลิกผลิต 6 แบบ]
กระเป๋า 6 รุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมแม้ว่าจะไม่ได้ผลิตออกมาแล้วก็ตาม บางรุ่นหาซื้อได้ยาก แต่ถ้าคุณโชคดี คุณอาจจะซื้อได้ในตลาดมือสองก็ได้ เราจะมาอธิบายลักษณะเด่นและราคาของแต่ละรุ่นกันค่ะ
Garden Party
Garden Party เป็นกระเป๋าโท้ตที่มีกลิ่นอายแบบลำลอง ได้แรงบันดาลใจมาจากถุงเก็บอุปกรณ์ทำสวน และมีเอกลักษณ์ตรงที่ด้านในมีการเคลือบป้องกันสิ่งสกปรก
เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย เพราะมีความทนทาน ไม่เสียรูปทรงง่าย และสะดวกสบายในการใช้งาน ว่ากันว่ากระเป๋า Hermes รุ่นนี้ มีผู้คนต่างเข้ามาเป็นเจ้าของมากมาย นอกจากดีไซน์มาตรฐานที่ผสมผสานระหว่างผ้าใบกับหนังแล้ว ยังมีแบบหนังล้วนๆอีกด้วย
ราคาอยู่ที่ 270,000 ถึง 500,000 เยน (ประมาณ 67,500 – 125,000 บาท) และราคามือสองจะอยู่ที่ประมาณ 75,000 ถึง 125,000 บาท
Sac A Depeche
Sac A Depeche เป็นกระเป๋าที่ศิลปิน นักกวี นักการทูต และนักการเมืองชื่อดังอย่าง J.F. Kennedy ชื่นชอบ เดิมผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1928 เพื่อใส่เอกสารเป็นหลัก วัสดุหลักที่ใช้คือหนังลูกวัวตัวผู้ที่เรียกว่า Togo โดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยมและทนทานต่อรอยขีดข่วน
สินค้าสั่งทำที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
ราคามากกว่า 1 ล้านเยน (ประมาณ 250,000 บาท)
Lindy
Lindy เป็นกระเป๋าทรงกล่อง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหาได้ยากสำหรับกระเป๋า Hermès ใช้งานได้จริงและใช้งานได้ 2 แบบเป็นได้ทั้งกระเป๋าถือและกระเป๋าสะพายไหล่ นอกจากนี้ ยังแข็งแรงทนทาน สามารถบรรจุสิงของได้มากมาย เป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ทั้งสำหรับโอกาสทั้งทางธุรกิจและในชีวิตประจำวัน
วัสดุมี 2 ประเภท: หนัง Taurillon เนื้อแน่น และหนัง Veau Swift ที่นุ่มนวลและมีชีวิตชีวา
ราคาอยู่ที่ 800,000 ถึง 1,120,000 เยน (ประมาณ 200,000 – 280,000 บาท) และราคามือสองอยู่ที่ประมาณ 950,000 ถึง 1,200,000 เยน (ประมาณ 237,500 – 300,000 บาท)
Constance
Constance เป็นกระเป๋าสะพายที่เปิดตัวในปี 1969 ได้รับความนิยมหลังจากที่ Jacqueline Kennedy สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 35 สวมใส่
หัวเข็มขัดขนาดใหญ่มีรูปทรงเชิงสัญลักษณ์เหมือนตัว “H” ซึ่งเป็นอักษรย่อของ Hermes พร้อมกับดีไซน์ที่หรูหราเหมาะสำหรับโอกาสงานทางการ
ราคาจะอยู่ที่ 800,000 ถึง 4 ล้านเยน (ประมาณ 200,000 – 1,000,000 บาท) และราคาตลาดมือสองอยู่ที่ 400,000 ถึง 2 ล้านเยน (ประมาณ 100,000 – 500,000 บาท)
Picotin
Picotin เป็นกระเป๋าแบบเปิดดีไซน์เรียบง่าย เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มหญิงสาว เนื่องจากมีรูปลักษณ์แบบสามมิติและรูปทรงโค้งมน อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ดูกะทัดรัด แต่ก็มีความจุสูงและใช้งานง่าย
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 ยังไม่มีผลิตล็อตใหม่ออกมา แต่ในปี พ.ศ. 2551 ได้มีการเปิดตัวรุ่นที่ต่อยอดคือ 「Picotin Lock」 ซึ่งสามารถล็อคด้วยแม่กุญแจได้ และยังแมตช์กับทุกแฟชั่นได้ง่าย หากคุณสนใจที่จะซื้อกระเป๋า Hermes เป็นครั้งแรกเราขอแนะนำกระเป๋ารุ่นนี้เลยค่ะ
ราคาของ Picotin อยู่ที่ประมาณ 370,000 ถึง 600,000 เยน (ประมาณ 92,500 – 150,000 บาท) และมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 ถึง 1,000,000 เยน (ประมาณ 100,000 – 250,000 บาท) ราคาของ Picotin Lock อยู่ที่ประมาณ 350,000 ถึง 460,000 เยน (ประมาณ 87,500 – 115,000 บาท) และแบบมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 250,000 ถึง 550,000 เยน (ประมาณ 62,500 – 137,500 บาท)
Herline
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Herline คือกระเป๋าโท้ตที่ทำจากผ้าไนลอนดูแข็งแรงคงทน ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีเยี่ยม มีให้เลือกในสีสันสุดชิคอย่างสีเทาและสีน้ำตาล สามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยและทุกโอกาส นอกจากนี้ กระเป๋าโท้ตส่วนใหญ่มักมีช่องเปิดที่ไม่สามารถปิดได้ แต่รุ่นนี้จะมีซิปและตัวล็อค เพื่อให้คุณรู้สึกปลอดภัยเมื่อใช้งาน
หากคุณกำลังมองหากระเป๋าจาก Hermès ที่ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน กระเป๋ารุ่นนี้ตอบโจทย์ค่ะ เพราะเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงนักแม้ว่าจะเป็นสินค้ามือสองก็ตาม
ราคาอยู่ที่ 20,000 ถึง 120,000 เยน (ประมาณ 5,000 – 30,000 บาท) และของมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ถึง 20,000 เยน (ประมาณ 2,500 – 5,000 บาท)
ประเภทกระเป๋า Hermes [2 รุ่นใหม่]
เราขอแนะนำกระเป๋า Hermes ล่าสุด 2 รุ่นสำหรับปี 2023 ที่นี่
Weekender・Cadenas
Weekender Cadenas มีดีไซน์ที่ไม่สมมาตรสะดุดตา โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างวัสดุที่แตกต่างกัน คือ การผสมผสานระหว่างผ้าแคนวาสและหนัง 「Cadenas」 แปลว่า แม่กุญแจ Cadena (แม่กุญแจ) เป็นเหมือนจุดเด่นของกระเป๋าช่วยให้คุณล็อคซิปในช่องที่ใหญ่ที่สุดและช่องกระเป๋าด้านนอกได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นกระเป๋าสะพายไหล่ โดยขยายสายได้ ด้วยขนาดที่กะทัดรัดจึงง่ายต่อการผสมผสานกับการแต่งตัว และยังทำให้ดูโดดเด่นได้อีกด้วย
ณ เดือนมิถุนายน 2566 ราคาอยู่ที่ 1,265,000 เยน (ประมาณ 316,250 บาท)
Buddy Pocket
Buddy Pocket เป็นกระเป๋าทรง body bag ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ส่วนโค้งของกระเป๋าพอดีกับสรีระของคุณ ทำให้ถือได้ง่าย ด้านหน้าทำจากหนังเนื้อนุ่ม และด้านหลังทำจากวัสดุแคนวาส
ช่องเก็บสัมภาระหลักมีซิปปิด ด้านนอกมีช่องกระเป๋าสองช่อง สะดวกในการเก็บของชิ้นเล็กๆ
ณ เดือนมิถุนายน 2566 ราคาอยู่ที่ 959,200 เยน (ประมาณ 239,800 บาท)
กระเป๋า Hermes 3 สีใหม่ล่าสุด
ในฤดูกาลนี้ มีสีสันใหม่ๆ ออกมาด้วย สีสันอันหลากหลายก็กลายเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของ Hermès เช่นกัน เราจะมาแนะนำ 3 สีที่โดดเด่นกันค่ะ
Gris Neve
Gris Neve เป็นสีใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่น Spring/Summer 2023 เป็นสีเทาอ่อนที่มีเฉดสีเขียวในปริมาณที่พอเหมาะ ให้ความรู้สึกเบาๆและดูสมาร์ท กล่าวได้ว่าเป็นสีอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์
Gris Neve ยังอยู่ในสายล็อครุ่น Birkin และ Picotin
ราคาของ Gris Neve ในรุ่น Picotin Lock อยู่ที่ 890,000 เยน (ประมาณ 222,500 บาท) และส่วนในรุ่น Birkin อยู่ที่ 3,727,000 ถึง 4,272,000 เยน (ประมาณ 931,750 – 1,068,000 บาท)
Vert Comics
Vert Comics ก็เป็นสีใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่น Spring/Summer 2023 ในบรรดาสีเขียวของHermès ที่เปิดตัวทุกปี สีเขียวสดที่ให้ความรู้สึกเชิงบวกเป็นพิเศษ เน้นความน่ารักของรุ่น Picotin Lock เป็นไอเทมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกไปเที่ยวในเมืองด้วยความรู้สึกสดชื่น
เปิดตัวเป็นสีใหม่ล่าสุดของ Picotin Lock ราคา 727,000 เยน (ประมาณ 181,750 บาท)
Orange Minium
Orange Minium ซึ่งเป็นสีส้มสดใสดูสะดุดตา เป็นสีใหม่ล่าสุดสำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2023 สีส้ม Hermes ที่สดใสนั้นสร้างความน่าประทับใจให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา ยังช่วยเพิ่มความสดใสให้กับการแต่งตัวของคุณอีกด้วย
สีนี้อยู่ในรุ่น Picotin Lock และ Birkin
ราคา 3,454,000 เยน (ประมาณ 863,500 บาท)
กระเป๋า Hermes 3 สีใหม่ล่าสุด
กระเป๋า Hermes ทั้งหมดล้วนแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ ให้ความรู้สึกถึงประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีหลายรุ่นและหลายสีสัน ดังนั้น แนะนำให้เลือกในแบบที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานค่ะ
นอกจากนี้ คุณไม่เพียงแค่ซื้อกระเป๋า Hermes เท่านั้น คุณยังสามารถขายเป็นทรัพย์สินได้ในราคาที่สูงอีกด้วย หากคุณต้องการกระเป๋าใบใหม่ ลองเปลี่ยนมาพิจารณาซื้อกระเป๋ารุ่นเก่าดูก่อนได้นะคะ
Jewel Cafe เราก็รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม เช่นกันค่ะ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา และเลือกดูประวัติการรับซื้อได้ค่ะ
■ Birkin https://jewel-cafe.co.th/
■ Kelly https://jewel-cafe.co.th/
■ Constance https://jewel-cafe.co.th/
Jewel Cafe เป็นอันดับ 1 ในแง่ของความพึงพอใจของลูกค้าในการรับซื้อ! หากคุณกำลังอยากขายสินค้ามือสองโปรดติดต่อเรานะคะ คลิกที่นี่เพื่อดูเว็บไซต์ทางการของ Jewel Cafe