fbpx

3 รุ่นกระเป๋าหลุยส์ไหนที่นำมาร้านรับซื้อแล้วได้ราคาดีแน่นอน ! | จิวเวล คาเฟ่ ไทยแลนด์

อัพเดทวันที่: January 2, 2024

3 รุ่นกระเป๋าหลุยส์ไหนที่นำมาร้านรับซื้อแล้วได้ราคาดีแน่นอน ! | จิวเวล คาเฟ่ ไทยแลนด์

หลุยส์วิตตอง (Louis Vuitton) เป็นหนึ่งในแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือหรือกระเป๋าตังค์ก็กล่าวได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในวงการรับซื้อและเป็นแบรนด์ที่มีประวัติการรับซื้อสูงเป็นอันดับต้นๆ

สำหรับแบรนด์ Louis Vuitton เราได้รับคำถามเข้ามามากมายอย่างเช่น “สภาพแบบนี้ก็รับซื้อด้วยหรอ?” “จะตีราคาได้ประมาณเท่าไหร่หรอ?” และยังมีการสอบถามเข้ามามากมายว่ากระเป๋าหลุยส์รุ่นไหนที่มีการส่งต่อเข้ามาในตลาดมือสองมากที่สุด

เพื่อช่วยไขข้อสงสัยนั้น จีเวลคาเฟ่ขอนำเสนอบทความ “กระเป๋าหลุยส์รุ่นฮอตฮิต 3 อันดับ” ที่มีความต้องการสูง ต่อให้เป็นของมือสองก็ยังสามารถปล่อยต่อได้แทบจะทันที จุดไหนที่เป็นเสน่ห์ของกระเป๋าหรือจุดไหนที่ทำให้ราคารับซื้อสูงขึ้น จีเวลคาเฟ่จะบอกหมดในมุมมองของผุ้เชี่ยวชาญด้านการรับซื้อกระเป๋าหลุยส์มือสองค่ะ

หัวข้อ

  1. 3 อันดับรุ่นกระเป๋าหลุยส์ที่มีประวัติถูกรับซื้อบ่อยที่สุดในช่วงปี 2020 – 2021
    1. อันดับ1 Speedy
    2. อันดับ2 Keepall
    3. อันดับ3 Alma

3 อันดับรุ่นกระเป๋าหลุยส์ที่มีประวัติถูกรับซื้อบ่อยที่สุดในช่วงปี 2020 – 2021

ว่ากันว่ามีรูปแบบของรุ่นอยู่หลักๆ ประมาณ 3 รุ่น และเนื่องจากว่าใน 3 รุ่นนั้นก็ยังมีรูปแบบย่อยๆลงไปอีก ดังนั้นหากเป็นไปได้ ให้คุณสร้างภาพความคิดขึ้นมาว่า 「รุ่นแบบนี้ ดีจัง..」ก่อนที่จะไปที่ร้านนาฬิกาค่ะ

อันดับ 1 Speedy

〇 เหตุผลที่ฮอตฮิต…

หลุยส์ Speedy เป็นซีรียส์ที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นในปี 1930 โดยมีต้นแบบมาจากรุ่น Keepall ซึ่งมีแบบป็นกระเป๋าเดินทางบอสตัน (ก่อนหน้านี้ถูกตั้งชื่อซีรียส์ว่า “เอ็กเพรส”) โดยซีรียส์นี้ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงขนาดพื้นที่ที่นั่งในรถยนต์ที่พึ่งเปิดตัวใหม่ โดยมีให้เลือกถึง 5 ขนาด ได้แก่ 25, 30, 35, 40 และรุ่นเล็ก Nano Speedy ซีรียส์ Speedy มีขนาดที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถใช้เป็นกระเป๋าถือก็ดีหรือกระเป๋าบอสตันก็ได้รับความนิยมเช่นกันเนื่องจากมีดีไซน์ที่ดูสะอาดตาและให้ความรู้สึกเรียบง่ายนั่นเอง

〇 แบบไหนบ้างที่ส่งต่ออยู่ในตลาดมือสอง?

เนื่องจากเป็นสินค้ารุ่นที่ได้รับความนิยมมาแต่ดั้งแต่เดิม ทำให้หลุยส์รุ่นนี้จำนวนมากส่งต่อเข้ามาที่ร้านรับซื้อและมีการหมุนเวียนในตลาดมือสองและตลาดรียูสสูงค่ะ พูดง่ายๆก็คือเป็นรุ่นที่ถูกรับซื้อได้ง่ายที่สุดนั่นเอง แม้ว่าในตลาดมือสองจะไม่ค่อยมีสภาพใหม่เอี่ยมถูกส่งต่อเข้ามาแต่ไม่ว่าสภาพไหนก็มีประวัติการรับซื้อในราคาที่สูงสำหรับกระเป๋ามือสองเลยค่ะ

สำหรับซีรียส์นี้แล้วทั้ง 5 ไซส์ได้รับความนิยมพอๆกัน แต่ถ้าพูดถึงลายกระเป๋าหลุยส์ที่มีมากที่สุดก็ต้องเป็นลาย “Monogram”

(ด้วยความที่ลาย Damier และลายAzurนั้นมีการผลิตที่น้อยจึงส่งผลให้ราคารับซื้อสูงไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาก็ยังขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋าอีกด้วย ถ้าหากกระเป๋ามีรอยเปื้อนที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็จะส่งผลต่อราคารับซื้อค่อนข้างมากเลยค่ะ)

〇 ช่วงราคารับซื้ออยู่ที่เท่าไหร่?

สำหรับหลุยส์ Speedy มือสองที่อยู่ในสภาพดีและเป็นแรร์ไอเทมแบบลายDamier และลายAzurจะมีราคารับซื้อมากกว่า 30,000 บาทขึ้นไปและยังมีบางกรณีที่สามารถปล่อยต่อได้ที่ 75,000 บาทเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ช่วงราคาสำหรับหลุยส์Speedy มือสองนั้นส่วนมากจะต่ำกว่า 12,500 บาท ถ้าหากมีรอยเปื้อนในจุดที่สังเกตเห็นได้ง่าย, ร่องรอยการใช้งาน, หรือหนังเริ่มเหนียวเป็นต้นก็อาจจะส่งผลให้ราคาตกโดยเริ่มต้นที่หลักร้อยบาทค่ะ หลุยส์ Speedy มือสองนั้นมีปริมาณการส่งต่อในตลาดมือสองอยู่เป็นจำนวนมาก จึงกล่าวได้ว่าราคารับซื้อจะขึ้นหรือลงนั้นหลักๆเลยจะขึ้นอยู่กับลายของคุณลูกค้าว่าเป็นแรร์ไอเทมหรือไม่และขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานนั้นเองค่ะ

〇 จุดไหนที่ทำให้ Speedy ถูกรับซื้อราคาสูง?

จริงๆมีหลายจุดอยู่ค่ะที่ส่งผลต่อราคารับซื้อ แต่จุดที่มีอิทธิพลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นระหว่าง “ลายกระเป๋า” และ “สภาพ” ค่ะ

ถ้าหากเป็นลายกระเป๋าที่เห็นได้ทั่วไปอย่าง Monogram ล่ะก็ราคารับซื้อจะไม่ได้สูงมากค่ะ ในขณะที่ลาย Damier ในสีต่างๆหรือลายที่มีความต้องการสูงเช่น Cherry หรือ Bandoulière มีแนวโน้มว่าจะได้รับการประเมินราคารับซื้อที่สูงขึ้นด้วยนะคะสำหรับสภาพ จุดที่จะโดนประเมินก่อนเลยคือช่วงหูหิ้วค่ะ เนื่องจากเป็นจุดที่โดนใช้งานละสามารถมองเห็นร่องรอยการใช้งานได้ชัดเจนมากที่สุดรวมถึงบริเวณก้นกระเป๋าและตรงมุมกระเป๋าซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดรอยถลอกได้ง่าย นอกจากนี้ก็มีบริเวณรอยเย็บมีรอยถลอกหรือจับแล้วรู้สึกได้ถึงรอยถลอกหรือไม่ค่ะ

หรือกรณีที่กระเป๋ามีสภาพภายนอกนางฟ้ามากแต่เนื่องจากไม่ได้ถูกใช้งานเป็นเวลานานจนมีความชื้นเกิดขึ้นและส่งผลให้ข้างในกระเป๋ามีความเหนียวล่ะก็จะส่งผลลบต่อราคารับซื้ออย่างมากเลยค่ะเพราะฉะนั้นหากมีแพลนว่าจะปล่อยน้องต่อ แนะนำให้ดูแลด้วยการใส่ตัวดูดความชื้นไว้ในกระเป๋าก็ดีนะคะ

อันดับ2 Keepall

〇 เหตุผลที่ฮอตฮิต…

Keepall ถือกำเนิดในปี 1924กล่าวกันว่าเป็นโมเดลต้นแบบของรุ่น Speedy ที่เป็นอันดับ1ในตลาดรับซื้อค่ะ โดยมีคอนเซปต์ในการออกแบบคืออ้างอิงจากกระเป๋าเดินทางบอสตันแบบหิ้วที่แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่แต่ก็สามารถพับเก็บใส่ในกระเป๋าลากได้ด้วยเหตุเพื่อให้ง่ายต่อการพับเก็บวัสดุจึงเป็นผ้าฝ้ายค่ะ และยังมี Keepall Bandouliere เวอร์ชันดัดแปลงให้มีสายสะพายไหล่ก็ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน ส่วนไซส์โดยวัดจากความกว้างมี 4 ขนาด (45, 50, 55, 60 ซม.) + ขนาด XS และเหตุผลที่รุ่นนี้ฮอตฮิตเป็นเพราะว่าสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่จำกัดแค่ว่าเป็นกระเป๋าเดินทางเท่านั้น ทั้งยังสามารถจุของได้เยอะและยังหิ้วไปได้ทุกสถานการณ์จึงเป็นรุ่นที่สามารถพบเห็นได้จนชินตาเลยค่ะ

〇 แบบไหนบ้างที่ส่งต่ออยู่ในตลาดมือสอง?

แน่นอนว่า Keepall ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ในญี่ปุ่นมีปริมาณการซื้อเป็นจำนวนมากในช่วงปี 1970 ถึง 1990 ทำให้ในปัจจุบันยังคงมี Keepall ในสมัยปี 70-90 หลงเหลืออยู่ในตลาดมือสองอีกด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นซีรียส์กระเป๋าที่มีประวัติมาอย่างยาวนานจึงทำให้ซีรียส์นี้มีภาพจำเป็นกระเป๋าที่มีร่องรอยการใช้งานอย่างชัดเจนในตลาดมือสองญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ

ส่วนลายที่น่าจะเห็นกันในตลาดรับซื้อจนชินตาคงหนีไม่พ้นลายคลาสสิคแบบ Monogramค่ะแต่ลายตารางหมากรุกอย่าง DamierหรือAzur รวมถึงรูปแบบอื่นๆเช่น cobaltก็มีส่งต่อเข้ามาในตลาดมือสองเช่นกันค่ะ ของที่ออกใหม่ก็มีลายที่นอกเหนือจากลาย Monogramแล้วก็ยังมีลายอื่นๆออกมาให้เห็นอยู่บ้างค่ะ

〇 ช่วงราคารับซื้ออยู่ที่เท่าไหร่?

กล่าวได้ว่า Keepall นั้นมีช่วงราคารับซื้อที่กว้างกว่าอันดับ1 Speedy ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ค่ะ

ถ้าหากว่ากระเป๋าสภาพดีมากแทบมองไม่เห็นร่องรอยการใช้งานและลายกระเป๋าเป็นลายแรร์ด้วยล่ะก็ราคารับซื้ออาจจะสูงมากกว่า 7,500 บาท ต่อให้เป็นลายที่แมสและเห็นกันจนชินตาอย่างลายMonogram แต่ถ้าสภาพดีล่ะก็ราคารับซื้อก็จะสูงกว่า 3,000 บาทขึ้นไปเลยค่ะ

ทว่ากระเป๋ารุ่น Keepall นั้นก็กรณีเดียวกันกับรุ่นSpeedyค่ะ เมื่อสินค้าชนิดใดที่มีความนิยมซัพพลายหรือการผลิตใหม่ก็สูงตามไปด้วยทำให้มีกระเป๋าสภาพดีๆในแต่ตลาดมือสองเยอะเช่นกัน ด้วยเหตุนั้นเองสำหรับมือสองที่มีสภาพการใช้งานชัดเจนเช่นหูหิ้วหรือมุมกระเป๋ามีลอยถลอกหรือหนังเป็นรอยล่ะก็จะส่งผลต่อราคารับซื้อให้ตกลงต่ำมากๆเลยค่ะ รวมถึงหากในกระเป๋าเริ่มเหนียว หรือมีรอยเปื้อน รอยถลอกที่เห็นได้ชัดจะส่งผลให้มูลค่ากระเป๋าตกลงหลายร้อยบาทเลยค่ะ เนื่องจากของใหม่ก็ยังมีผลิตอยู่อย่างต่อเนื่องและของมือสองสภาพดีก็ยังมีส่งต่อเข้ามาอีกมากมาย ช่วยไม่ได้เลยค่ะที่ราคารับซื้อสำหรับกระเป๋าที่มีสภาพการใช้งานเห็นชัดจะมีราคาไม่สูงมาก

〇 จุดไหนที่ทำให้ Keepall ถูกรับซื้อราคาสูง?

แน่นอนว่าสภาพของกระเป๋าก็เป็นปัจจัยหลักค่ะแต่สำหรับ Keepall เรื่องของลายกระเป๋าส่งผลต่อราคารับซื้อมากที่สุดค่ะ

สำหรับ Keepall ถ้าเป็นลายหายากแล้วราคารับซื้อแทบจะแตกต่างจากลายMonogramที่เป็นลายแมสเกือบเท่าตัวค่ะ(ส่วนมากจะสูงกว่าประมาณ 3-5เท่า)

ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นลายหายากสุดพรีเมียมอย่าง Monogram Camouflage ที่เป็นผลงานคอลแล็บกับดีไซนเนอร์ชาวญี่ปุ่นคุณ Murakami Tadashi ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากหากชิ้นไหนที่สีเบสเป็นสีเขียวแล้วล่ะก็ในตลาดมือสองเสนอราคารับซื้อมากกว่า 12,500 บาทเลยค่ะ นอกจากนี้หากเป็นลาย Damier, Drip, Cherry ที่ไม่ค่อยมีการผลิตใหม่ล่ะก็สามารถคาดหวังราคารับซื้อที่สมเหตุสมผลได้เลยค่ะ

คุณลูกค้าน่าจะทราบดีแล้วค่ะว่ายังไงสภาพการใช้งานคือปัจจัยหลักสำคัญที่สุดและหากเป็นลายที่มีการผลิตใหม่หลายรอบอย่างลาย Monogram มักจะถูกประเมินราคารับซื้อโดยดูจากสภาพการใช้งานเป็นหลักอย่างละเอียดเลยค่ะ

สำหรับการประเมินรุ่น Keepall นั้นสามารถกล่าวได้ว่าร้านรับซื้อจะดูอยู่ 3 จุดหลักได้แก่ “หูหิ้วกระเป๋ามีการเปลี่ยนรูปหรือสีเปลี่ยนหรือไม่” “มีคราบหรือรอยถลอกที่บ่งบอกถึงการใช้งานตรงมุมก้มกระเป๋าหรือไม่” “ข้างในกระเป๋ามีรอยเปื้อนหรือไม่” ด้วยเหตุนี้เมื่อใช้งานทุกครั้งอยากให้คอยระวังตรงจุดนี้และเก็บรักษาน้องกระเป๋าหลุยส์ให้ดีที่สุดนะคะ

อันดับ3 Alma

〇 เหตุผลที่ฮอตฮิต…

หลุยส์วิตตองรุ่น Alma นั้นแตกต่างจาก 2 รุ่นข้างบนที่เราพึ่งพูดถึงไปค่ะเพราะเป็นรุ่นที่เป็นน้องสุดโดยเกิดในปี 1992 ถือว่าเป็นซีรียส์ที่ค่อนข้างใหม่เลยค่ะ!

และยังเป็นซีรีย์ที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบไม่ว่าจะใช้แบบสะพายใหล่หรือเปลี่ยนมาหิ้วมือก็สวยเก๋และยังมีการดีไซน์ให้ทรงกระเป๋าคงสภาพมากที่สุด โดย Almaนั้นจะมีไซส์แตกต่างกันไปดั่งนี้ค่ะ (เริ่มจากเล็กสุด)PM,MM,GM โดยพื้นฐานแล้วจะมี 3 ไซส์นี้ค่ะ และนอกจากนี้ก็ยังมีการผลิตไซส์เล็กกว่านี้ขึ้นมาโดยชื่อเรียกว่า Nano Alma หรือ Alma BB หรือ Neo Alma BB นอกจากนี้ทางหลุยส์เองก็ยังมีผลิตไซส์ใหญ่เช่น Voyage MM หรือ GM เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและนี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ Alma เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ ในวงการมือสองกระเป๋าหลุยส์รุ่น Alma นั้นถือเป็นกระเป๋าที่เสียทรงยากที่สุดทำให้ราคารับซื้อไม่ตกลงมากนักแม้จะมีสภาพเก่ามากก็ตาม จึงเป็นซีรีส์ที่ถูกแนะนำเป็นอย่างมากค่ะ

〇 สภาพไหนบ้างที่ส่งต่ออยู่ในตลาดมือสอง?

Alma นั้นเป็นซีรีย์ที่นับว่าเป็นน้องใหม่ในวงการหลุยส์ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่ค่อยได้เห็นใบไหนที่มีสภาพที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงจนเสียทรง ส่วนมากในตลาดมือสองจะยังมีแต่สภาพที่กระเป๋าอยู่ทรงเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

นอกจากนี้Almaนั้นเปิดตัวด้วยลายMonogram จึงทำให้ Alma ลายMonogram นั้นอยู่ในตลาดมือสองเยอะที่สุดค่ะ นอกเหนือจากลายMonogram แล้วก็ยังมีลายมาตราฐานอื่นๆอีกเช่น Damier multicolor หรือล็อตที่ทำจากวัตถุดิบและดีไซน์ที่แตกต่างกันไปเช่น Ostrich และ Empreinte ก็มีมาให้เห็นในตลาดมือสองเช่นกันค่ะ

〇 ช่วงราคารับซื้ออยู่ที่เท่าไหร่?

สำหรับตลาดญี่ปุ่นแล้วถ้าพูดถึง Alma ลายไหนมีแนวโน้มว่าราคารับซื้อจะสูง ก็มีหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจโดยเป็นรุ่นคอลแล็บ (บางรุ่นที่เป็นลายระดับแรร์รุ่นคอลแล็บกับดีไซนเนอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่นคุณ Kansai Yamamoto ถูกรับซื้อในมูลค่าสูงมากแม้จะมีสภาพใช้งานมาแล้วก็ตาม) นอกจากนี้รุ่นที่เป็นลายจำพวก Damier นั้นสามารถเรียกราคารับซื้อได้สูง ยิ่งสภาพดีเท่าไหร่ราคารับซื้อสามารถสูงได้มากกว่า 25,000 บาทเลยทีเดียวค่ะ

ถ้าพูดถึงลายอื่นๆนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วลายจำพวก graffiti ที่มีปริมาณการผลิตน้อยก็มีความต้องการในตลาดมือสองสูงเช่นกัน หากนำมาปล่อยต่อในสภาพนางฟ้าและไม่มีรอยเปื้อนในจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายจะส่งผลให้ราคารับซื้อสูงขึ้นเช่นกันค่ะ แน่นอนว่าลายสุดแมสแบบ Monogram ก็มีบางกรณีที่ได้ราคารับซื้อสูงกว่า 25,000 บาท เพราะมาในสภาพนางฟ้าใกล้เคียงของใหม่นั่นเองโดยจากที่ศึกษาในตลาดมือสองส่วนมากจะอยู่ในช่วงราคา 2,500 บาทจนถึง 7,500 บาทค่ะ ไม่เหมือนกับลาย Monogram ในซีรียส์อื่นๆที่มักจะถูกจำกัดราคาไว้ไม่เกิน 1,000 บาท

〇 จุดไหนที่ทำให้ Alma ถูกรับซื้อราคาสูง?

เนื่องจากAlmaมีข้อดีคือความทนทานต่อการใช้งานและความอยู่ทรง เกณฑ์การประเมินจึงจะไปเน้นตรงส่วนที่เกิดรอยหรือมีโอกาสเปื้อนได้ง่ายค่ะ ถ้าจุดที่สามารถเห็นได้ด้วยตามี “ความเสียหาย การเสียรูป และคราบสกปรกรอยเปื้อนตรงหูหิ้ว” แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลต่อราคาได้เช่นกันค่ะ ต่อมาตรงมุมกระเป๋าที่มีโอกาสเป็นรอยถลอกได้ง่ายจากการใช้งานและถ้าหากต้นก้นกระเป๋ามีรอยเปื้อนก็จะส่งผลต่อราคาค่ะ มีบางกรณีที่Almaถูกเก็บไว้ในตู้เฉยๆจนซิปแข็งรูดไม่ไป บางทีการเก็บกระเป๋าไว้เพราะไม่ได้ใช้งานและเพื่อหลีกเลี่ยงการมีรอยถลอกก็เป็นผลร้ายเหมือนกันนะคะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจุดมากมายที่ต้องประเมินด้วยแต่จุดที่กล่าวมานั้นเป็นจุดที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดค่ะ

ถ้าพูดถึงลายแล้วแน่นอนว่าลายที่เป็นแรร์ไอเทมจะต้องได้ราคาดีกว่าลายแมส แต่ดูเหมือนว่าAlma นั้นจะแตกต่างไปจาก Keepall และSpeedy เพราะเป็นซีรียส์ที่ราคาไม่ได้เหวี่ยงตามลายกระเป๋าไปด้วยนั่นเองค่ะ

และทั้งหมดก็คือ 3 รุ่นกระเป๋าหลุยส์ที่เป็นยอดนิยมของร้านรับซื้อนั่นเองค่ะ จริงๆแล้วนอกจาก 3 อันดับแล้วยังมีอันดับที่4 “Neverfull” อันดับที่5“Papillon” และอันดับที่6 “Noe”

เนื่องจากซีรียส์เหล่านี้มีความนิยมและปริมาณมากในตลาดมือสอง ผู้ประเมินจึงได้มีโอกาสได้ประเมินได้เห็นของจริงและค่อยๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการพิจารณาในรายละเอียดและนำประมาพัฒนาการประเมินให้แม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ ด้วยเหตุนั้นไม่ใช่แค่มองแต่จุดตำหนิอย่างเดียวต้องมีการประเมินจุดบวกของกระเป๋าด้วยเพื่อที่จะเพิ่มราคารับซื้อให้สมเหตุสมผลต่อคุณลูกค้ามากที่สุด

นอกจากนี้ ซีรียส์กระเป๋าหลุยส์ที่แนะนำในบทความนี้มีความนิยมสูงมาก เนื่องจากส่งต่อได้ง่ายมากจึงไม่ต้องกังวลว่าของจะค้างสต็อคด้วยทำให้นักประเมินสามารถให้ราคารับซื้อได้อย่างมั่นใจและสมเหตุสมผลต่อคุณลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นค่ะ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมซีรียส์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับการประเมินราคาไปในทางบวก (ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะได้รับการประเมินราคาไปทางบวกก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการรับซื้อของแต่ละร้านนะคะ)

หากคุณเป็นเจ้าของซีรียส์ยอดนิยมเหล่านี้และกำลังพิจารณาอยากเปลี่ยนกระเป๋าหรืออยากขายแล้วล่ะก็ ได้โปรดเก็บJewel Café ไว้ในพิจารณาและให้เราได้ประเมินกระเป๋าของคุณด้วยนะคะ

ผู้เขียนคอลัมน์

author Yasui Osamu นักเขียนแวดวงรียูส

จบการศึกษาจากภาควิชามนุษยสัมพันธ์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ ตั้งแต่ปี 1999 มีประสบการณ์ในบริหารทั้งโรงเรียนกวดวิชา สำนักงานให้คำปรึกษาเรื่องการแต่งงาน และร้านธุรกิจรียูสโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ในใจกลาง จ.คานากาว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านธุรกิจรียูสนั้นเป็นการซื้อขาดอย่างมีกลยุทธ์ หลังจากเปิดมาได้กว่า 30 แห่งในตัวจังหวัด ตั้งแต่นั้นมา ได้ผันตัวมาทำงานเป็นนักเขียน คอลัมนิสต์ และที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซและอุตสาหกรรมข้ามพรมแ

สำหรับการซื้อสินค้า Luxury ราคาแพง,
ปล่อยให้ร้าน Jewel Cafe

Jewel Cafe banner

Jewel Cafe ครองอันดับ
1 ด้านความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า

  • ราคาสูงจนน่าตกใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เครือข่ายกระจาย!
  • ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมด้วยร้านค้ากว่า 250 แห่ง!
  • บริการทำความสะอาดเครื่องประดับฟรีที่หลายคนชื่นชอบ!
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิกไม่ว่าจะซื้อด้วยวิธีใด!
บทความนี้ยังถูกอ่าน!

ค้นหาร้าน JEWEL CAFÉ ใกล้บ้านคุณ

เรามีพนักงานหญิงที่มีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์มากมายและมีขั้นตอนการประเมินที่รวดเร็ว เพียง 10 นาทีจากเวลาที่คุณมาที่ร้านเพื่อชำระเงิน! ถ้าคุณสนใจ ในการประเมินและให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็ว เราขอแนะนำให้ไปที่ร้านค้าของเรา!

ค้นหาร้านค้า
ค้นหาร้านค้าใกล้คุณ